วันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2560

   ตารางธาตุ (Periodic table)
                               
พลังงานไอออไนเซชัน (IE)
พลังงานไอออไนเซชัน คือ พลังงานที่ใช้ในการดึงอิเล็กตรอน 1 อนุภาค ออกจากอะตอมในสถานะแก๊ส กลายเป็นไอออนบวก
                           ธาตุที่มีอิเล็กตรอน 1 ตัวคือ ธาตุไฮโดรเจน (H)
H(g) → H+(g) + e              IE=1,318 kJ/mol
 อิเล็กโตรเนกาติวิตี  (EN)
คือ ค่าที่แสดงความสามารถในการดึงอิเล็กตรอนของอะตอมของธาตุในพันธะเคมีหนึ่ง อะตอมที่มีค่า ENสูงจะดึงดูดอิเล็กตรอนได้ดีกว่าอะตอมที่มีค่า EN ตำ
อิเลกตรอนอัฟฟินิตี (EA(สัมพรรคอิเล็กตรอน)
      คือ ระดับพลังงานที่ใช้ในการดึงอิเล็กตรอนออกจากอิออนลบในสถานะก๊าช  แล้วกลายเป็นอะตอมในสถานะก๊าช
          Cl - (g)         →        Cl (g)  +    e  ดูด
 
หรือพลังงานที่คายออกมา  เมื่ออะตอมในสถานะก๊าชรับอิเล็กตรอน  แล้วกลายเป็นอิออนในสถานะก๊าช
Cl (g)  +    e      →          Cl- (g)  คาย
 
   จุดหลอมเหลวและจุดเดือด (Melting point , Boiling point)
      
สารต่าง ๆ จะมีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค  ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าสารนั้น ๆ อยู่ในรูปโมเลกุลหรืออะตอม  ความแข็งแรงของแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคจะมีผลต่อจุดหลอมเหลวและจุดเดือด  สารที่ที่มีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคแข็งแรงมากจุดหลอมเหลวและจุดเดือดจะสูง  ส่วนสารที่มีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคแข็งแรงน้อย  จุดหลอมเหลวและจุดเดือดจะต่ำ
1.  แนวโน้มจุดหลอมเหลวและจุดเดือดตามคาบ
เมื่อพิจารณาตามคาบ  ธาตุหมู่  IA   IIA   IIIA  และ  IVA  จุดหลอมเหลวและจุดเดือดมีแนวโน้มสูงขึ้นตามลำดับ  โดยเฉพาะหมู่  IVA  จะมีจุดหลอมเหลวและจุดเดือดสูงที่สุด  ส่วนหมู่ VA   VIA   VIIA  และ  VIIIA  จุดหลอมเหลวและจุดเดือดต่ำ
 
2.  แนวโน้มจุดหลอมเหลวและจุดเดือดตามหมู่
เมื่อพิจารณาตามหมู่พบว่าจุดหลอมเหลวและจุดเดือดของธาตุหมู่  IA   IIA  และ  IIIA  ส่วนใหญ่มีค่าลดลงเมื่อมีเลขอะตอมเพิ่มขึ้น  หรือมีแนวโน้มลดลงจากบนลงล่างตามหมู่  เนื่องจากมีขนาดอะตอมใหญ่ขึ้น  ความแข็งแรงของพันธะโลหะจะลดลงตามหมู่  ส่วนธาตุหมู่  VA   VIA   VIIA  และ  VIIIA  มีจุดหลอมเหลวและจุดเดือดเพิ่มขึ้นตามเลขอะตอม  ซึ่งเป็นผลมาจากมีมวลอะตอมเพิ่มขึ้น  ทำให้แรงดึงดูดระหว่างโมเลกุล (แรงแวนเดอร์วาลส์) มีค่ามากขึ้น  สำหรับจุดหลอมเหลวและจุดเดือดของธาตุหมู่  IVA  มีแนวโน้มที่ไม่ชัดเจน  เนื่องจากธาตุหมู่  IVA  มีโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอะตอมแตกต่างกัน  จึงไม่สามารถสรุปแนวโน้มได้
 
เลขออกซิเดชัน (Oxidation number)
 หมายถึงจำนวนประจุไฟฟ้าหรือประจุไฟฟ้าสมมติของไอออนหรืออะตอมของธาตุ
 
เกณฑ์การกำหนดค่าเลขออกซิเดชัน มีเกณฑ์ดังนี้
1.ธาตุอิสระทุกชนิดทั้งที่อยู่ในรูปอะตอมหรือโมเลกุล มีเลขออกซิเดชันเท่ากับศูนย์ เช่น Fe , Zn , H2 , N2 , O2 , P4 , S8 ต่างมีเลขออกซิเดชันเท่ากับศูนย์
2. ออกซิเจนในสารประกอบทั่วไปมีเลขออกซิเดชัน -2 ยกเว้นในสารประกอบเปอร์ออกไซด์ เช่น Na2O2 , H2O, BaO2 ออกซิเจนมีเลขออกซิเดชัน -1 ในสารประกอบซูเปอร์ออกไซด์ เช่น KO2 ออกซิเจนมีเลขออกซิเดชัน -1/2 ในสารประกอบ OF2 ออกซิเจนมีเลขออกซิเดชัน +2
3. ไฮโดรเจนในสารประกอบทั่วไปมีเลขออกซิเดชัน +1 ยกเว้นในสารประกอบโลหะไฮไดรด์ เช่น NaH ไฮโดรเจนมีเลขออกซิเดชัน -1
4. ไอออนของธาตุมีเลขออกซิเดชันเท่ากับประจุของไอออนนั้น เช่น Hเลขออกซิเดชันเท่ากับ +1 , Ca2+ เลขออกซิเดชันเท่ากับ +2 , Cl- เลขออกซิเดชันเท่ากับ -1 เป็นต้น
 
5. ไอออนที่ประกอบด้วยอะตอมมากกว่า 1 ชนิด ผลรวมของเลขออกซิเดชันของทุกอะตอมเท่ากับประจุของไอออนนั้น เช่น Cr2O7 2- มีประจุ -2 ผลรวมของเลขออกซิเดชันของ Cr2O7 2- จึงเท่ากับ -2
6. ในสารประกอบใด  ผลรวมของเลขออกซิเดชันของทุกอะตอมเท่ากับศูนย์ เช่น CaO เลขออกซิเดชันของแคลเซียมเท่ากับ +2 ของออกซิเจนเท่ากับ -2 ซึ่งรวมกันจะเท่ากับศูนย์
  
 ตัวอย่างที่  จงหาเลขออกซิเดชันของ Mn ในสารประกอบ KMnO4
ผลรวมเลขออกซิเดชันของ KMnO4
=
0
Mn 4(O)
=
0
(+1) + Mn 4(-2)
=
0
Mn
=
 (+8) - 1
=
+7

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น